โลกทึ่ง! พระราชินีไทยสุดสตรอง ต้นแบบของควีนยุคนิวนอร์มอล
ไม่เพียงแต่จะทรงใช้พลัง “ซอฟต์พาวเวอร์” เพื่อทำให้ชื่อเสียงของผ้าไทยและงานหัตถศิลป์ไทยขจรขจายไปไกลได้อย่างน่าภาคภูมิใจ แต่ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” ยังทรงเป็นต้นแบบของ “พระราชินีสุดสตรอง” ที่พร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์ เพื่อรับมือกับโลกยุคนิวนอร์มอล
ก่อนหน้านี้ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ทรงปลุกกระแสผ้าไทยและงานหัตถศิลป์ไทยให้คึกคักมาแล้ว โดยทรงเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นชุดไทยพระราชนิยม และกระเป๋าทรงถือสไตล์รักษ์โลก ซึ่งตัดเย็บจากเศษผ้าไหมที่เหลือจากการตัดฉลองพระองค์ ทรงออกแบบเพื่อใช้สอยสำหรับการเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจในแต่ละวโรกาส เพื่อเป็นการลดปริมาณสิ่งของที่เหลือจากการตัดฉลองพระองค์ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการจัดการสิ่งของเหลือใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้ทักษะด้านการออกแบบทางศิลปะมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นพระราชนิยมที่มาจากแนวคิด “Zero Waste” ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายรวงข้าว, ผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายกอบัว, ผ้าไหมปักซอยไหมน้อย ลายดอกเล็บมือนาง, ผ้าจกไหม ลายข้าวหลามตัด, ผ้าขิดสลับหมี่ ลายกาบแก้วบัวบาน, ผ้าไหมมัดหมี่ ลายหมี่วงอุ้มโคม, ผ้าภูษาไหมยกดอก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์, ผ้าภูษาไหมยกดอก ลายดอกดาวเรืองถมเกสร, ผ้าไหมแพรวาลายเกาะ และผ้าไทภูเขาชนเผ่าม้ง ก็ล้วนแต่ได้รับการชุบชีวิตให้กลับมาโลดแล่นเป็นที่ประจักษ์ในความงดงามอีกครั้ง
อีกหนึ่งเอกลักษณ์โดดเด่นของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” คือทรงนิยม “พัดด้ามจิ้วเขียนลาย” ทำจากไม้และผ้าปักลวดลายแสนประณีตบรรจง ปลุกกระแสนิยมสร้างความคึกคักให้ผลิตผลจากฝีมือลูกหลานชาวไร่ชาวนา ที่วางจำหน่ายอยู่ในมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง
ล่าสุด ยังทรงแจกความสดใสให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมในความฟิตและแข็งแกร่งตามแบบฉบับของ “พระราชินียุคใหม่” ผ่านพระปรีชาสามารถด้านกีฬาอันหลากหลาย ไล่ตั้งแต่ ทรงร่วมแข่งขันกีฬา “ไอซ์ ฮอกกี้” คู่เปิดสนาม ที่สนามไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไอซ์ ฮอกกี้ อารีนา เชียงใหม่ โดยทรงทำคะแนนแรกให้กับทีม BLUE และทรงสนุกสนานไปกับการแข่งขันตลอดเกม ซึ่งเป็นไปอย่างสูสีผลัดกันรุกกันรับดุเดือดทีเดียว
แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดก็เห็น จะเป็นวินาทีที่ “สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ทรงปีนเสาเรือใบอย่างคล่องแคล่ว เพื่อขึ้นไปผูกผ้าใบ ท่ามกลางไอแดดร้อนระอุ อีกทั้งทรงแสดงพระปรีชาสามารถและทักษะในการบังคับทิศทางเรือ ระหว่างทรงร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 35 ณ หาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต ในทีมวายุ รุ่น ไออาร์ซี ซีโร (IRC Zero) หมายเลขเรือ THA 72 ซึ่งเป็นเรือใบขนาดใหญ่ที่ใช้ในการแข่งขันระดับโลก โดยมีเรือเข้าแข่งขัน จำนวน 4 ลำ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศไทย ทั้งนี้ ทีมเรือใบที่ทรงร่วมแข่งขันนั้นสามารถเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่หนึ่งทั้งสองรอบการแข่งขัน นับเป็นการสืบสานกีฬาเรือใบของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้งทรงส่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่นักกีฬาเรือใบรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนไทยให้ได้ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาต่อยอดการเล่นเรือใบสู่ระดับสากลต่อไป
ทรงตอกย้ำความสตรองอีกครั้ง โดยเช้ามืดวันรุ่งขึ้น เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์ไปทรงร่วมวิ่งรายการ CIB RUN 2023 “วิ่งเฉลิมพระเกียรติ CIB RUN เคียงข้างประชาชน” ณ สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต สนามบินสุวรรณภูมิ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินี” ทรงร่วมวิ่งในระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 61 นาที 45 วินาที เพื่อร่วมส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี พร้อมเชิญชวนประ ชาชนจากทุกภาคส่วนทุกเพศทุกวัยให้มาร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและความฟิต งานนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนเป็นอย่างมากในความแข็งแกร่ง ทว่าอ่อนน้อมน่ารักและเป็นกันเอง แถมยังมีพระปรีชาสามารถรอบด้านจริงๆ
นับจากนี้ประชาชนชาวไทยต่างเฝ้ารอชื่นชมพระปรีชาสามารถของ “พระราชินีสุดสตรอง” ว่าจะทรงเผยพรสวรรค์ใดที่ซ่อนเร้นอยู่ เพื่อให้สมกับที่ทรงเป็นต้นแบบ “พระราชินียุคนิวนอร์มอล” ควีนหนึ่งเดียวในโลกที่ผ่านการฝึกเข้มทางทหารมาครบทุกหลักสูตร คุมหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยและถวายพระเกียรติแด่องค์พระมหากษัตริย์ ตลอดจนพระบรมวงศา นุวงศ์ทุกพระองค์อย่างใกล้ชิดมาแล้ว ทั้งองอาจเข้มแข็งงามสง่า พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นพระคู่ขวัญคู่พระราชหฤทัยใน “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความทันสมัยและความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง.