ความตระการตาทางทัศนียภาพของ “ชตัด” (Gstaad) ดินแดนงดงามด้วยประกายระยับจากเกล็ดหิมะที่ปกคลุมไปทั่วเทือกเขาแอลป์ กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญอยู่เบื้องหลังผลงานทรงออกแบบล่าสุดของ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราช กัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ “SIRI VANNAVARI” และ “S’Homme” ถ่ายทอดสู่คอลเลกชันแห่งปี “Glimpse of Lucent Hori zon” ออทั่ม/วินเทอร์ 2022–23 เพื่อพาเหล่าแฟชั่นนิสต้ามุ่งไปยังจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และดินแดนโปรด ของผู้หลงใหลในกีฬาฤดูหนาว
“ชตัดเป็นเมืองพักผ่อน ซึ่งตั้งอยู่ท่าม กลางทิวเขาสูงตระหง่านในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากชื่อเสียงของการเป็นเมืองแห่ง กีฬาสกี และการปีนเขาแล้ว ยังมีป่าไม้อันสวย งาม และเสน่ห์ของบรรยากาศความหรูหราบนถนนแฟชั่นตลอดทั้งสาย ในขณะเดียวกัน “ชตัด” ก็มีวัฒนธรรมแห่งงานศิลปะตัดกระดาษลายฉลุพื้นบ้านของสวิส และงานแกะสลักไม้อันประณีตงดงาม รวมไปถึงฤดูกาลที่สร้างแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเกล็ดหิมะ, ภูเขาหิมะ, การละลายของหิมะสู่หยดน้ำ, ต้นสนฤดูหนาว, กวางเรนเดียร์ และภาพวาดฝีพระหัตถ์ องค์ประกอบทั้งหมดนี้ถูกตีความออกมาเป็นคอลเลกชัน “Glimpse of Lucent Horizon” ออทั่ม/วินเทอร์ 2022–23”...เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงบอกเล่าถึงที่มาของการสร้างสรรค์ผลงานคอลเลกชันล่าสุด
ผลลัพธ์ที่ได้คือ งานออกแบบเครื่องแต่งกาย 42 ชุด อันประกอบ ด้วย ชุดผู้หญิง 35 ชุด และชุดผู้ชาย 7 ชุด ที่เต็มไปด้วยความงามสง่า, เฉียบขาด และสนุกสนาน โดยอาศัยมิติทรงโอเวอร์ไซส์กับโครงสร้างเส้นตรงมาเป็นแนวทางหลัก เติมแต่งงานตัดเย็บด้วยงานปักชั้นสูงอันวิจิตรบรรจง ร่วมกับลูกเล่นของการเลเยอร์ทับซ้อนกัน ตามสไตล์ของเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์ร่วมสมัย โดยสีหลักในคอลเลกชันมีทั้งสีเขียว,สีน้ำตาล, สีน้ำตาลอมเบจ, สีแดง และสีน้ำเงินหลากเฉดในโทนขรึม พร้อมคู่สีฤดูหนาวสุดคลาสสิก เช่น สีดำกับสีขาว และเติมลุคให้สมบูรณ์แบบด้วยเครื่องประดับขาวใสวาววามดุจน้ำแข็ง
เพื่อสะท้อนถึงทักษะความชำนาญในศิลปะการตัดเย็บของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” คอลเลกชันนี้ยังนำเสนอผ้าทวีตที่เล่นรายละเอียดทางเนื้อสัมผัสของลายทอ, ผ้ายืด และผ้านิตเนื้อนุ่มสวมสบาย, ลูกไม้เนื้อบางเบา, ความหรูหราของผ้ากำมะหยี่, หนังเทียม, Faux fur และผ้าเนื้อเมทัลลิกเงาวาว เผยเสน่ห์ลูกเล่นชวนฝันด้วยการใช้หลากเทคนิคสุดพิถีพิถัน อาทิ งานวางลูกไม้บนผืนหนัง, งานเย็บตะเข็บกรุนวมเดินลาย ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์, งานปักแบบ “อินตาร์เซีย” ด้วยเทคนิคแถบเฟอร์เดินลายบนผ้าพื้นโครงสร้างของชุด ขณะที่หนังแกะนัปปา (Nappa) จากอิตาลี ถูกนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อโค้ตยาว เข้าคู่กางเกงคลุมเข่า และเสื้อแจ็กเกตกรุนวมเนื้อบาง ตกแต่งรายละเอียดด้วย “Faux fur” ตรงปกเสื้อและข้อมือ สำหรับสวมคู่กับกางเกงขาตรงไปจนถึงกางเกงขากว้าง หรือสั้นระดับเบอร์มิวดาสำหรับผู้หญิง และโดดเด่นที่สุดคือ การนำงานตัดกระดาษพื้นบ้านของสวิส ขึ้นรูปลายทิวเขาสลับซับซ้อนแซมป่าสนภูเขาและกระท่อมไม้ มาเป็นต้นแบบสำหรับการใช้เทคนิคเลเซอร์ฉลุลายผ้าและลายพิมพ์ ซ้อนผ้าเล่นสีนีออนสะดุดตา
ส่วนเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชาย “S’Homme” อาศัยความประณีตของงานตัดเย็บชุดสูทอิตาเลียนมาถ่ายทอดบุคลิกเปี่ยมพลังและกระฉับ กระเฉง ประกอบ ด้วยแจ็กเกตผ้าทอใยขนสัตว์ หรือผ้าวูล ตกแต่งลูกเล่นเข็มขัดกึ่งสปอร์ต, เสื้อกั๊กกรุนวม, เบลเซอร์ทรงหลวม และเสื้อโค้ตยาวตกแต่งแขนด้วยผ้าถักลายเคเบิลนิตเพิ่มลูกเล่นด้วยลายพิมพ์กราฟฟิตี้ ที่แปลงทัศนียภาพของเทือกเขาสูงปกคลุมหิมะ และตัวอักษร “SIRI” จับคู่สีสวยน้ำเงิน-ขาว และแดง-เขียว พิมพ์ลงบนแจ็กเกตกรุนวม ทั้งแบบปาร์กาเอวสอบ และอะโนแร็ก หรือแจ็กเกตกรุ สำหรับสวมคู่กับกางเกงตัดเย็บพอดีทรง หรือกางเกงตัวหลวมกึ่งจ๊อกเกอร์แพนต์ การสวมเสื้อนอกทับเสื้อผ้ายืด, ผ้าเชิ้ต หรือนิตแวร์ทอลายตัวใน คือลูกเล่นในการเติมความโก้หรูให้ชุดสไตล์สปอร์ต
ในคอลเลกชันนี้ยังมีชุดเดรสทั้งสั้นและยาวที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์โก้หรูมีระดับของชาวเจ็ตเซตในช่วงฤดูหนาว ขนมาหมดทุกเทคนิคงานคราฟต์จากช่างฝีมือชั้นสูงของ “SIRIVANNAVARI Atelier and Academy” ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือปักขนนก, งานปักคริสตัล และร้อยลูกปัด รวมถึงกรรมวิธีอินตาร์เซีย (intarsia) หรืองานฝังวัสดุปูลายบนผ้าพื้นแบบอิตาเลียน ก็ถูกหยิบมาใช้กับ “Faux fur” เช่นเดียวกับงานฝีมือของช่างปักที่ร้อยเรียงคริสตัลขาวใสขึ้นรูปเป็นเกล็ดหิมะ และงานปักหลากเทคนิคบนผ้าลูกไม้อ่อนช้อย ร่วมกับงานร้อยลูกปัดหลากทรง, ขนนกจับช่อพลิ้วไหว และงานฝีมือปักขนนกกระจอกเทศสุดหรูหรา ล้วนแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันตามแบบฉบับโอต์กูตูร์
ขาดไม่ได้ในทุกคอลเลกชันคือกระเป๋า สำหรับซีซันนี้ไฮไลต์อยู่ที่กระเป๋าถือ “โนเอลล่า” (Noella) กระเป๋าสไตล์สปอร์ตแบบยูนิเซ็กส์ ผลิตจากผ้าไนลอนกรุนวม เดินลายตอกหมุด และกรุหนังด้านใน สามารถสลับเปลี่ยนสายได้สองระดับ คือสายโซ่สั้นคล้องไหล่ ห่วงสลักอักษร S เมื่อต้องการความโก้ กับสายสะพายยาวผ้าแคนวาสแถบหนา เดินด้ายปักชื่อแบรนด์โดดเด่น ประดับหมุดโลหะสีเงิน สไตล์ร็อกร่วมสมัย เมื่อต้องการความทะมัดทะแมง
ส่วนเครื่องประดับในไลน์ “Sirivan navari Bijoux” สะท้อนถึงพลังชีวิต และแรงบันดาลใจจากความงดงามของเกล็ดหิมะ สู่กระบวนการผันเปลี่ยนตามธรรมชาติ ผ่านรูปทรงเรขาคณิต ที่จำลองความซับซ้อนของเกล็ดหิมะมาสู่ “ต่างหู” ล้อแสงทอประกายประดับวงหน้า มีให้เลือกแบบติดใบหู ไปจนถึงต่างหูระย้าแชนเดอเลียร์ เหนือชั้นด้วยเทคนิคการใช้เรซินเนื้อใสเพื่อถ่ายทอดกระบวนการละลายตัวของหิมะที่กลายเป็นหยดน้ำ โดยเส้นโค้งที่ไหลลื่นคดเคี้ยว ฝังคริสตัลวาววาม เติมความละเมียดละไมประดับใบหู เสริมคอระหงจดปลายนิ้ว อีกหนึ่งงานออกแบบสื่อความสว่างพร่างพราย คือ “ต่างหูวงใหญ่” ก่อเกิดจากการ เป่าแก้วใส คล้องเกี่ยวดุจห่วงโซ่ความงดงามยามเหมันต์ ขณะที่กวางป่ามาในรูปของกวางเรนเดียร์.
>{Fullwidth}